บันทึกการเดินทางท่องเที่ยว ฉงชิ่ง เฉิงตู วันที่ 5 – 27 ธันวาคม 2567


วันนี้มีเป้าหมายเดียวคือออกเดินทางจากที่โรงแรมที่ฉงชิ่ง ไปยังโรงแรมที่เฉิงตูให้สำเร็จ
ตอนเช้า ทำกิจกรรมเหมือนเดิม คือกินข้าวเช้า เอาเสื้อผ้าที่ซัก แล้วจัดกระเป๋า เช็คเอ้าท์ออกจากที่พัก เข็นกระเป๋าเดินทางลงมาจากโรงแรม แล้วเดินไปขึ้นรถไฟฟ้า ซึ่งทางเดินเท้าค่อนข้างขรุขระ พอเดินไปถึง รถไฟฟ้า เนื่องจากเราซื้อตั๋วเราไฟความเร็วสูง จากสถานีฉงชิ่งเหนือ ไปยังสถานีฉงชิ่งตะวันออก แต่เมื่อวานตอนที่เราไปต้าหลี่ถัง สังเกตว่า มีสถานี 2 สถานีที่สามารถจะลงที่สถานีฉงชิ่งเป่ยได้ คือ สถานีฉงชิ่งเป่ยเหนือ กับใต้ ตอนซื้อตั๋วเลยแวะถามพนักงานที่สถานีว่าควรไปลงสถานีฉงชิ่งเป่ย ทางเหนือหรือใต้ดี สรุปว่า ลงสถานีทางไหนก็ได้ โตวอี๋ยั่ง คือเหมือนกัน เพราะสถานีรถไปเป็นฮอล์ใหญ่ ๆ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะขึ้นรถไฟที่ประตูไหน
เราเลยตัดสินใตซื้อตั๋วไปสถานีรถไฟฉงชิ่งเป่ย ทางทิศเหนือ เพราะเมื่อวาน ตอนนั่งรถไฟ ได้ยินเสียงประกาศว่าถ้าใครจะลงสถานีรถไฟความเร็วสูงให้ลงตรงสถานีนั้น
ซื้อตั๋วเสร็จก็เดินทางขั้นรถำฟไปต่อสายสีม่วง ที่สถานี interchange ก็แวะถ่ายรูป ซึ่งที่นี่เห็นวิวริมแม่น้ำสวย ๆ เห็นคนแวะถ่ายรูปอยู่หลายคน แต่ตอนขามาจากสนามบินไม่ได้แวะ
พอถึงสถานีฉงชิ่งเป่ย ทางทิศเหนือ ก็เดินนำเอากระเป๋าเข้าไปสแกน จากนั้นก็ไปนั่งรอเรียกรถไฟไปเฉิงตู
ในระหว่างนั่งรถไฟความเร็วสูงไปเฉิงตู ไม่ค่อยมีอะไรน่าจดจำสักเท่าไร อาจเป็นเพราะเรานั่งรถไฟความเร็วสูงจนเคยชินแล้ว
แต่พอลงที่สถานีรถไฟเฉิงตูตง หรือเฉิงตูตะวันออก พอออกจากทางรถไฟมา ต้องยอมรับว่าที่เฉิงตู ใหญ่กว่าที่ฉงชิ่งมาก แค่ทางออกจากทางรถไฟไปที่สถานีรถไฟฟ้า ก็ต้องเดินเยอะมาก
เราบอกกับเพื่อนว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ ตอนเช้าเราก็ต้องมาที่นี่ใหม่อีก จึงไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมากนัก
นั่งรถไฟฟ้าในเมืองจากที่สถานีรถไฟความเร็วสูงเฉิงตูตะวันออกไปลงที่สถานีทงฮุ่ยเหมิน ซึ่งอยู่ใกล้จากโรงแรมที่เราจองที่พักไว้
รถไฟฟ้าคนแน่นมาก กว่าจะถึงสถานีทงฮุ่ยเหมิน ก็แทบจะไม่ได้นั่งเลย อีกทั้งกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาก ได้แต่ภาวนาให้ถึงที่พักไวไว
พอถึงสถานีทงฮุ่ยเหมิน ตัดสินใจเลือกทางออกที่มีบันไดเลื่อนแต่ต้องข้ามถนน เดินไปจนถึงโรงแรมที่พัก
โรงแรมที่เราพัก เป็นระดับ 4 ดาว มีพนักงานยกกระเป๋าให้ พอเข้ากระบวนการเช็คอินเราขอห้องที่เงียบ ๆ และไม่สูบบุหรี่ ซึ่งก่อนขึ้นเข้าที่พัก พนักงานก็แจกนม และมีเวลคัมดริ้งด์ เป็นน้ำชาร้อนให้กินแก้กระหาย
เช็คอินเรียบร้อย ก็เข้าสู่ห้องพัก ปรากฎว่าทางโรงแรมจัดให้เราอยู่ใกล้กับห้องแม่บ้าน อยู่โซนด้านหลังซึ่งก็เงียบดี พอถึงห้องพัก สำรวจห้องแล้วเห็นว่าแบบแปลนห้องแปลก ๆ เพราะอ่างล้างหน้าอยู่นอกห้องน้ำ และห้องน้ำ กับห้องอาบน้ำแยกกัน เหนือไปกว่านั้นคือ หน้าต่างที่ห้องพัก ยังเปิดอยู่ แต่มีคำเตือนเขียนไว้ว่าให้ปิด ในตอนนอน เราเลยอยากปิดหน้าต่าง แต่ปิดไม่เป็น เราเลยกะว่าเดี๋ยวตอนเดินลงไปด้านล่าง จะเรียกให้พนักงานมาปิดให้
ส่วนที่เตียงนอน มีของที่ระลึกเป็นลูกอมหมีแพนด้า แต่ไม่ได้ที่คาดผม ตามที่เห็นมีรีวิวไว้
นั่งพักได้สักพัก จากนั้นเราก็ลงมาข้างล่างหาอะไรกิน ตอนแรกที่ตั้งใจจองโรงแรมนี้เพราะว่าอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวนั่นคือ ขนนกว้างแคบ คิดว่าจะมีอะไรให้กินเยอะะ แต่ปรากฎว่า อาคารที่มีให้กินเป็นพวกขนม และพวกของกินเล่น ไม่ค่อยมีร้านอาหารใหญ่ ๆ เดินวนรอบ ๆ อยู่นาน ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ จนตอนแรกกะว่าจะไปต่อที่ชุนซีลู่ แต่เราขอเพื่อนว่าลองดูอีกรอบ เพื่อนเราพอดีไปเห็นร้านหม้อไฟ เปิดไฟสว่าง เลยตัดสินใจไปกินร้านนั้น ปรากฎว่าเจอร้านอร่อย บริการพนักงานที่ร้าน และเจ้าของร้านดีมาก และจะบอกว่าหม้อไฟที่กินที่เฉิงตูร้านนี้ อร่อย กว่าที่ฉงชิ่ง
เจ้าของร้านเห็นเราเป็นคนต่างชาติเลยมาบริการเอง สอนเรากินหม้อไฟ กับทำน้ำจิ้มให้ แม้ว่าเราจะไม่กินเผ็ดแต่เจ้าของร้านก็เชียร์ให้ลองหม้อไฟแบบ2 น้ำซุป แต่ไม่ใช่เป็นแบบยวนยาง แต่เป็นหม้อไฟแบบวงกลม นอกใน ด้านนอกใส่น้ำซุปเห็ดไม่เผ็ด ส่วนด้านในใส่น้ำซุปหมาล่า นอกจากนั้น เราก็เลือกอาหารอีกฟลายอย่าง แต่สังเกตว่า อาหารที่แพงที่สุดน่าจะเป็นอาหารทะเล เราจึงเลือกมาอย่างเดียว
พอกินเสร็จ จ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว เพื่อนก็เลยคุยเล่นกับเราว่า คนเก็บเงินที่เค้าเตอร์ น่าจะเป็นภรรยาของเจ้าของร้านที่มาดูแลเรา เพราะร้านชื่อร้านเมียสวย
เราก็ขำ แล้วพากันเดินกลับเข้าที่พัก ก่อนถึงมีซุปเปอร์มาร์เกต เลยแวะซื้อของ
วันนี้ต้องเข้านอนเร็ว เพราะพรุ่งนี้จะเช็คเอ้าแต่เช้าเพื่อเดินทางไปเล่อซานและเอ่อเหมย
พอถึงห้องพักแล้ว ก็สังเกตว่าพนักงานมาปิดหน้าต่างให้แล้ว
คืนนีนอนเร็ว เตรียมตัวตื่นเช้า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *