บันทึกการเดินทาง ฉงชิ่ง เฉิงตู วันที่ 11 – 2 มกราคม 2567

วันนี้วันสุดท้ายที่จะได้ใช้เวลาเต็มวันที่เฉิงตู วันนี้มีแผนไปที่ศูนย์แพนด้า โดยจะนั่งรถ Shuttle bus ไป แบบไปกลับ เดินทางง่ายมาก ๆ จากถนนกว้างแคบ จะมีรถไปรับนักท่องเที่ยวที่ถนนชุนซี จากนั้นจะพาไป สวงเมาจีตี้ ได้ง่าย ๆ

ศูนย์แพนด้านี้อยู่นอกเมือง นั่งรถออกมาประมาณ 1 ชม. รถจะมาจอดทางประตูทิศใต้ ก่อนลงจากรถ คนขับรถจะพยายามย้ำว่า ตอนนั่งรถกลับ เข้าประตูไหน ออกประตูนั้น ให้จำไว้ว่าออกทางประตูทิศใต้ แถมมีอวยพรว่า ขอให้ทุกคนได้เจอฮัวฮัว เพราะเมื่อวานฮัวฮัวไม่ออกมา ทำให้เรารู้ว่า โชคดีแล้ว ที่เมื่อวานไม่ได้ตัดสินใจมา

จากที่ป้ายรถบัส ต้องเดินเข้าประตูซึ่งอยู่ไกลเหมือนกัน ที่ด้านหน้าก็มีแม่ค้า พ่อค้ามาขายหมวก ที่คาดผม ส่วนเราที่เตรียมหมวกหมีแพนด้า ที่ซื้อมาจากถนนกว้างแคบ ก็ได้เอามาใส่ ให้ได้บรรยากาศก็ตอนนี้

ถึงทางเข้าก็ติดปัญหาเดิม คือไม่มีเบอร์จีน จะซื้อบัตรยังไง ก็เดินไปถามเจ้าหน้าที่ สรุปว่าได้ฟาสแทรค เข้าไปซื้อที่สำนักงาน ไม่ต้องเข้าแถวยาว ๆ แบบคนจีน ก็ถือว่าสบายไป

จากประตูทางเข้า เราจะเดินผ่านทะเลสาบหงส์ และเดินผ่านสถานีรถที่วิ่งภายใน พอเดินเข้าไปถามคนต่อคิวอยู่ ว่าต้องซื้อตั๋วไหม ราคาเท่าไหร่ ก็ได้ความว่า ราคาคนละ 30 หยวน

ส่วนเรา ก็เดินหาห้องน้ำ ซึ่งห้องน้ำที่นี่ถือว่าดีมาก เป็นรูปแพนด้า สมกับเมืองแพนด้า จากนั้นเราก็มองหาป้ายว่ามีร้านอาหารอะไรที่พอจะไปกินได้ไหม

เลือกได้ภัตตาคารแพนด้า ที่หนึ่ง สั่งอาหารประมาณ 2-3 อย่าง ซึ่งเป็นเหมือนเดิมคือ สั่งกับข้าว แล้วจ่ายค่าข้าว 2 หยวน ไม่อิ่มเติมข้าวกับน้ำได้ฟรี แต่ข้อเสียคือ ร้านไม่เปิดหน่วนชี่ ทำให้หนาวมาก อาหารที่สั่งมา พอได้มาแล้ว วางได้สักพัก ก็จะเย็นอย่างรวดเร็ว

พอกินข้าวเสร็จ ออกจากร้านอาหาร เตรียมตัวไปตามล่าหาแพนด้า พอเดินออกไปก็จะเห็นรั้วที่เลี้ยงแพนด้า ซึ่งแบ่งเป็นแพนด้าตัวใหญ่ เรียกว่าต้าสวงเมา คือแพนด้าสีขาวดำ และที่นี่ยังมี เสี่ยวสวงเมา คือแพนด้าแดง ซึ่งจะอยู่สูงขึ้นไป

แพนด้าที่นี่จะแยกเป็นตัวใหญ่แล้ว และตัวเล็ก ๆ ซึ่งเป้าหมายสำคัญคือ เราจะเข้าแถวไปดูฮัวฮัวกัน

ตอนแรกยังหาที่เข้าแถวดูฮัวฮัว ไม่เจอ ได้แต่มองหาเพื่อจะเห็นแพนด้า เพราะมาถึงถิ่นทั้งที วิธีสังเกตง่าย ๆ ว่าจะเจอแพนด้า คือ หาที่ ๆ คนมุงดูเยอะ ๆ เพราะที่แพนด้าจีตี้นี้ เขาเลี้ยงแพนด้ากันแบบกว้างขวาง มีพื้นที่ให้แพนด้าได้เดินเล่นเยอะมาก บางทีแพนด้าก็แอบซุ่มอยู่ตามต้นไม้ บังคับไม่ได้เลยที่จะได้เจอหรือไม่เจอ ถึงแม้ว่าจะมาถึงถิ่นเฉิงตู เมืองแพนด้าแล้วก็ตาม

เราเดินไปเดินมา แล้วก็บ่น ๆ บอกว่าจะไปดูฮัวฮัว พอดีมีคนได้ยิน เลยบอกทางว่า ถ้าจะไปดูฮัวฮัว ต้องเดินไปทางนั้น เราก็เห็นว่า เป็นทางเดินเข้าไป มีทางเข้าแถว เริ่มเข้าแถวตั้งแต่ประมาณบ่ายโมง กว่าจะถึงเวลาปล่อย ฮัวฮัวมาก็บ่ายสอง

สิ่งที่รู้สึกได้ว่า มาถึงที่แล้ว ก็คือ ตอนเข้าแถว เพราะเวลายิ่งใกล้ ก็จะยิ่งมีคนเข้าแถวมากขึ้น และเมื่อเข้ามาแล้ว ถ้าคิดจะเข้าห้องน้ำ ก็ยากมาก ดังนั้นควรเข้าห้องน้ำมาให้เรียบร้อยก่อนมาเข้าแถว

ในระหว่างเข้าแถว ก็ถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ และแถวก็ขยับ ๆ เรื่อย

สิ่งแรกที่รู้สึกได้ว่า มาถึงสถานที่ ๆ เห็นในเสี่ยวหงซู เกือบทุกวันก่อนมา ก็คือ เสียงถานเยเย่ คนดูแลน้องฮัวฮัว ตะโกนว่า ฮัวฮัว กั่วไหล ๆๆๆ และเห็นถานเยเย่ ตัวจริง เดินมา พร้อม หยิบไม้กวาด มาทางเราหนึ่งรอบ

ส่วนโอกาสในการเจอแพนด้า ไม่ว่าจะเป็นฮัวฮัว หรือฮัวเย่ น้องชายนั้น คาดเดาไม่ได้เลย เพราะแพนด้าเขาก็อยู่ของเขาตามปกติ เดินไปเดินมา ส่วนแถวด้านหน้า เขาก็จะให้หยุดที่ส่วนจัดแสดง เพื่อรอดูไม่เกิน 5 -10 นาที ซึ่งก็ไม่แน่ว่าจะเห็นแพนด้า เดินออกมาโชว์ตัวหรือเปล่า

นึกถึงคำของลุงคนขับเลยว่า ขอให้ทุกวันวันนี้ได้เจอฮัวฮัว เพราะฮัว ๆ เป็นแพนด้าตัวเล็ก ไม่ค่อยชอบขยับตัว ส่วนฮัวเย่ น้องชายนั้น เป็นพวกคึกคัก

ในตอนที่เราไปก็โชคดี น้องฮัวเย่ เดินมาโชว์ตัว ให้ดูถึงที่แถว ที่เข้าอยู่ โดยยังไม่ถึงส่วนจัดแสดงเลย เพราะฮัวเย่ ซน เดินไปทั่ว บางทีก็เดินเข้าป่าใบไผ่ไป บางทีก็เดินมาโชว์ตัว

ตอนแรกที่เห็นฮัวเย่ ก็ดีใจมากแล้ว เพราะได้เห็นน้อง ตัวเป็น ๆ แต่ก็อยากเห็นน้องฮัว ๆ ด้วย สรุปว่า ในรอบที่เราไป เห็นฮัวฮัว นั่งกินใบไผ่ อยู่ในป่าไกล ๆ เห็นไม่ชัด แต่เห็นฮัวเย่ 2 รอบ

รอบที่สอง ฮัวเย่ มาปีนต้นไม้ ตรงหน้าส่วนจัดแสดง แถมแสดงท่ายืดเหยีดขา จนคนที่ดูทักว่า สงสัยเป็นกังฟูแพนด้า

พอจบเวลาไม่เกิน 10 นาที ที่ได้ดู หลังจากเข้าแถวมากเป็นชั่วโมง ก่อนออกมา ยามที่เป็นคนจัดแถว ก็บอกว่า ถึงเวลาแล้ว ช่วยเดินออกด้วย เพราะเขาจะแบ่งเป็นล็อต ๆ ให้คนเข้าส่วนจัดแสดง ถ้าคนล็อตนี้ไม่ออก แถวก็จะเลื่อนไม่ได้ แต่ประทับใจที่เขาบอกตอนท้ายว่า พวกเราน่ะโชคดีแล้ว ที่ได้เห็นแพนด้า เพราะบางที เข้าแถวมาตั้งนาน แต่แพนด้าอาจหลบในป่า มองไม่เห็นตัวเลยก็ได้

เมื่อเดินออกมาแล้ว ก็รีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำ และหาทางไปดูส่วนจัดแสดง แพนด้าแดงต่อ ที่นี่เรียกว่า เสี่ยวสวงเมา ส่วนแพนด้าตัวใหญ่ลายขาวดำ เขาก็เรียกว่า ต้าสวงเมา

สำหรับการดูแพนด้าแดง ค่อนข้างยากมาก เพราะแพนด้าตัวเล็ก และชอบอยู่บนต้นไม้สูง ๆ แทบจะไม่เห็นตัว ต้องดูแผนเลนส์กล้อง แล้วซูม ๆ เข้าไป สรุปว่ารอบนี้ ได้เห็นแพนด้าแดง แบบไกล ๆ 2 รอบ

พอครบตามเป้าหมายแล้ว ก็เป็นช่วงเวลาเย็นแล้ว เราก็ค่อย ๆ เดินออกมาจนถึงทางออก ถ่ายรูปมาเรื่อย ๆ จริง ๆ แล้ว สำหรับเรา ไม่ต้องซื้อบัตรรถซัทเติ้ลบัส ก็พอเดินไหว แต่ถ้าผู้สูงอายุ ก็ควรซื้อ เพื่อมุ่งไปที่จุดเป้าหมายโดยตรง

ขาออก เดินกลับไปทางประตูทิศใต้ จนไปเจอรถบัส ที่กลับเข้าเมือง ขากลับคนเยอะมาก เต็มรถ เราพอหาที่นั่งได้ ก็ถามหาคนแถวที่นั่งใกล้ ๆ กันอีกทีว่า ใช่รถกลับเข้าเมืองไหม พอดีไปถามถูก ป้ากับหลานที่พากันมาเที่ยว คุณป้า พูดจีนกลางไม่ชัด เลยใช้โทรศัพท์พิมพ์ตอบหาเรา และชมเราอีกแล้ว ว่าภาษาจีน ใช้ได้ดี ส่วนหลานเหมือนกลัว ๆ คนแปลกหน้า เลยไม่ได้คุยอะไรมากมาย

ขากลับ รถบัสพาไปส่งถึง ป้ายชุนซีลู่ ก่อน แล้วค่อยกลับมาส่งที่ ถนนกว้างแคบ แต่เป็นอีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้กับทางสวนประชาชน ตอนแรกกะว่าจะไปเดินสวนประชาชน แต่เปลี่ยนใจกลับไปเดินถนนกว้างแคบสั่งลา

แต่รอบนี้ เดินไปเจอถนนสวย ๆ อีกฝั่งหนึ่ง แถว ๆ ถนนกว้างแคบ และไปซื้อของที่ระลึก ที่ร้านหว่างหงเยเย่ ซึ่งคนมุงตลอดทั้งวัน ซึ่งคืนก่อนหน้า เรามาแล้วรอบหนึ่ง แล้ววันนี้เรามาซื้อของเพิ่มอีกครั้งหนึ่ง

คืนสุดท้าย กลับไปกินร้านหม้อไฟเมียสวยเป็นการสั่งลา รอบนี้สั่งแต่ ซุปชิงทัง หรือซุปเห็ด ไม่สั่งอาหารทะล ซึ่งสั่งเกตว่าโต๊ะข้าง ๆ กัน เขากินแต่หมาล่า มีพวกเราแปลกอยู่โต๊ะเดียว และเจ้าของร้านจำพวกเราได้ด้วยว่ามากินอีกแล้ว แต่รอบนี้บริการด้อยกว่ารอบก่อน แต่ก็ไม่ถือว่าแย่ ยังคงประทับใจอยู่

กลับถึงโรงแรม ขอเซียวเย่ อาหารกินรอบดึก มากิน ซึ่งวันหลังๆ ได้เป็นเกี๊ยวน้ำ และก๋วยเตี๋ยวรสเผ็ด แต่อร่อยดี ก่อนจัดกระเป๋า เตรียมเข้านอน

พรุ่งนี้เราจะกลับบ้านกันแล้ว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *