เกาะช้าง เกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย ในครั้งนี้ เราจะบันทึกการเดินทางไปเที่ยวเกาะช้าง 3 วัน 2 คืน
เช้านี้ตื่นเช้า ด้วยฝนที่ตกลงมา ออกจากโรงแรม Hop In จันทบุรี ก่อนออกได้กินคาปูชิโน่ และช้อคโกแลตร้อน จากเครื่องที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้รสชาติใช้ได้ กินกับขนมปังที่เราเตรียมไว้ เข้ากับดี
จากโรงแรม เราเดินทางมุ่งหน้าไปที่ท่าเรือเฟอร์รี่ อ่าวธรรมชาติ ในวันที่เราไปถือว่ายังเป็นช่วงวันหยุด จึงใช้เวลาขึ้นเรือนาน รอประมาณ 1 ชม. ถึงจะได้ขึ้นเรือ
พอขึ้นเรือแล้ว ก็เห็นเกาะช้างอยู่ไกล ๆ อีกทั้งเป็นวันที่มีหมอก ให้บรรยากาศคล้ายกับเกาะในเรื่อง The Jurassic Park พอเรือข้ามมาถึงเกาะช้าง ซึ่งมีทางเลี้ยวซ้ายและเลี้ยวขวา
ในวันแรกของการเดินทางนี้ เราเลือกเที่ยวที่เกาะช้างเลี้ยวซ้ายก่อน เนื่องจากไม่ได้กินข้าวเช้า และข้าวกลางวัน ทำให้จุดหมายแรกที่ไป คือการไปกินข้าวกลางวันที่สลักเพชร ซีฟู้ด
ที่ร้านสลักเพชร ซีฟู้ด เต็มไปด้วยผู้คน มาเที่ยว มากินข้าว รู้ชะตากรรมว่าต้องรออาหารนานแน่ ๆ อีกทั้งพนักงานเสริฟ ก็ยังบอกอีกว่ารอนานหน่อย เราสั่งอาหารไป 3 อย่าง แต่เป็นเมนูสำรอง เพราะเมนูจริง ๆ วัตถุดิบหมด จำได้ว่าพนักงานเสริฟ บอกว่าของหมดหลายอย่าง
สุดท้ายอาหารที่เราสั่งไป จึงเหลือแค่ ปลาอินทรีย์ทอดน้ำปลา ต้มยำรวมมิตร และกุ้งซอสมะขาม
รสชาติอาหารพอใช้ วิวสวยใช้ได้ ข้อเสียคือรออาหารนาน และเมนูหลาย ๆ อย่างวัตถุดิบหมด หมดจนไม่รู้จะสั่งเมนูไหนดี…
ที่สลักเพชร ซีฟู้ด นี้ นอกจากเป็นร้านอาหารแล้ว ยังเป็นโฮมสเตย์ เราแอบไปดูแถว ๆ โฮมสเตย์ ซึ่งเขาติดป้ายไว้ว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัว เห็นว่าที่พักน่าจะพอใจ วิวดี มีที่นั่งให้เห็นทะเล หน้าห้องพัก แต่ถ้าจะมาพักที่นี่จริง ๆ ตอนดึกน่าจะเงียบเหงาพอควร
สำหรับคนที่มีเวลา ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ ๆ ที่น่าสนใจคือไปไปล่องเรือกอนโดล่าเมืองไทย ที่บ้านสลักคอก และดูป่าชายเลน สะพานแดง ที่ไม่ไกลจากร้านสลักเพชรซีฟูด แต่เรามีเวลาน้อยด้วยตอนเช้าฝนตก ทำให้เสียเวลาตั้งแต่ตอนออกเดินทาง เลยตัดสินใจว่าจะไปที่ อนุสรณ์สถานเกาะช้าง เลย
อนุสรณ์สถานเกาะช้าง
คำขวัญจังหวัดตราดมีอยู่ว่า “เมืองเกาะครึ่งร้อย พลอยแดงค่าล้ำ ระกำแสนหวาน หลังอานหมาดี ยุทธนาวีเกาะช้าง สุดทางบูรพา”
ในครั้งนี้ เราจึงตั้งใจไปที่อนุสรณ์สถานเกาะช้าง ซึ่งทราบมาว่ามีหาดทรายขาวสวย บางคนเตรียมเสื้อผ้าไปเล่นน้ำ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีห้องน้ำด้วย
การเดินทางไปที่นี่ ต้องขับรถไปในเส้นทางที่ค่อนข้างยากเหมือนกัน เพราะในช่วงท้าย ทางเริ่มไม่ดี มีชำรุด มีเส้นทางเดินรถทางเดียว มีจังหวะหนึ่ง ซึ่งเป็นทางชำรุด แต่กลับเจอรถกระบะที่สวนมาพอดี โชคดีและขอบคุณที่ฝ่ายรถกระบะอีกฝั่งหนึ่งยอมหลบให้
พอถึง ก็เดินไปที่หาดทรายก่อน หาดทรายที่นี่ขาวก็จริง แต่สกปรก เต็มไปด้วยขยะ น่าเสียดาย ในตอนที่เราไปมีคนจำนวนไม่มากนักไปเที่ยว และยังมีคนเล่นน้ำด้วย
ที่นี่มีอาคารเรือหลวงธนบุรี ซึ่งขาดการดูแลรักษา มีห้องน้ำแต่ไม่มีน้ำ ค่อนข้างลำบาก และขาดการปรับปรุงดูแล น่าเสียดาย เพราะหาดทรายขาวมาก ถ้ามีห้องน้ำ หรือที่อาบน้ำดี ๆ คงน่าเล่นน้ำไม่น้อย
ส่วนความรู้ด้านประวัติศาสตร์เกี่ยวกับยุทธนาวีเกาะช้างนั้น เราอ่านผ่านกำแพงที่เล่าเรื่องยุทธนาวีเกาะช้างแล้วต้องชื่นชมบรรพบุรุษคนไทย ที่ป้องกันบ้านเมือง เพราะเมือเทียบศักยภาพของเรือ และอาวุธที่มีอยู่ตอนนั้นแล้ว ไม่มีทางสู้ได้เลย แค่สู้จนฝรั่งเศสยอมถอยไปก่อนได้ ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว ถือโอกาสนี้สดุดี และขอบคุณเหล่าทหารเรือที่เสียชีวิตไปในครั้งนี้ด้วย
เมื่อเที่ยวอนุสรณ์สถาน ยุทธนาวีเกาะช้าง แล้ว เราจึงเดินทางกลับที่พัก ที่คลองพร้าวรีสอร์ท
คลองพร้าวรีสอร์ท
ในครั้งนี้เราจองแพคเกจ 3 วัน 2 คืน ของคลองพร้าวรีสอร์ท แบบห้อง Standard มา พอ Check – In เรียบร้อย ปรากฎว่าพนักงาน Front ให้ห้องพักเราเป็นชั้น 2 ซึ่งเราขอเปลี่ยนเป็นชั้น 1 เพราะเดินขึ้นไม่ไหว อีกทั้งมีของต้องแบกขึ้นอีกมาก แต่พนักงานบอกว่าห้องเต็มแล้วไม่ว่าง เราเลยถามว่า ถ้าไม่ว่างจริง ๆ คืนนี้ไม่เป็นไร แต่คืนพรุ่งนี้ ช่วยลองหาห้องเปลี่ยนให้หน่อย พนักงานบอกว่าจะลองหาดูให้ รออยู่นาน จนต้องเดินไปถามอีกรอบ พนักงานก็ยังดูวุ่น ๆ ไม่ยอมให้เปลี่ยน บอกว่าห้องเต็ม เราจึงลองคุยดูอีกทั้ง เลยจำได้ว่าตอนตกลงจองกับ Sale ได้วงห้องพักแบบ Standard ไว้ให้ แล้วระบุด้วยว่าเป็นโซนชั้นเดียว ไม่ใช่ 2 ชั้น ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่เราตัดสินใจจอง เลยบอกพนักงานไป และบอกว่าจะหา chat ที่คุยกับ Sale ให้ดู พอบอกไปแบบนั้นพนักงาน Front ก็หาห้องชั้น 1 ให้เราทันที ในเวลาไม่นาน พอได้ห้องพัก จึงรู้ว่าห้องข้าง ๆ ที่อยู่ชั้น 1 ยังว่างอยู่หลายห้อง ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทางพนักงาน Front ทำไมบอกว่าห้องเต็ม? เลยงง ๆ กับพนักงาน Front คนนี้อยู่ อีกทั้งตอนที่เรานั่งรอคำตอบ มีลูกค้า Walk in เดินเข้ามาถามห้อง แต่พนักงานคนนี้ก็ตอบงง ๆ จนลูกค้าจากไป
สรุปว่าพนักงานคนนี้ไม่เหมาะเป็น Front เลย เพราะส่งไปเจรจาที่ไหนคงแพ้ ทำให้ลูกค้าไม่พอใจได้ คนที่จะเป็นลูกค้าก็จากไปทำให้เสียลูกค้าอีก
สำหรับสภาพห้องพักแบบ Standard นั้น ค่อนข้างเก่า แต่ในห้องมีอุปกรณ์ตามที่โรงแรมควรมี สิ่งที่ควรเปลี่ยนคือผ้าขนหนูที่ให้เก่ามาก และน้ำในห้องน้ำซึ่งเป็นแบบฝักบัว มีหัวเดียว น้ำเบา ใช้เวลานานกว่าจะอาบเสร็จให้สะอาด
ส่วนสภาพภูมิทัศน์ด้านนอกสวยดี เป็นรีสอร์ทที่อยู่ใกล้ทะเล หาดทรายขาว แต่เราไม่ค่อยมีโอกาสได้เดินหาดทรายมากนักในคืนแรก เพราะเที่ยวอนุสรณ์สถานเกาะช้างมาจนถึงที่พักก็มืดแล้ว
ค่ำคืนนี้ อาหารเย็นเป็นแพคเกจที่ซื้อมา โดยเป็นอาหารให้เลือก เมนูปลา เมนูต้น เมนูผัด เมนูผัก อย่างละ 1 เมนู พร้อมกับข้าวสวยโถใหญ่ 1 โถ มีน้ำเปล่าให้บริการ แต่เราซื้อ Mocktail และน้ำมะพร้าวเพิ่ม
Mocktail คืนนี้ อร่อย ส่วนน้ำมะพร้าวรสไม่หวาน ออกเปรี้ยว รสชาติธรรมดา แต่ได้บรรยากาศดีกับการนั่งดื่มน้ำมะพร้าวริมทะเล
ในช่วงอาหารเย็นเวลา 19.30 น. มีโชว์กระบองไฟ ซึ่งถือว่าดี ตื่นตาตื่นใจ คืนนี้เราลองเล่นดึงเส้นลูกไฟ ที่เขาเอามาเล่นกับคนดูด้วย ไม่น่ากลัว ไม่ร้อน เฉย ๆ
ดูโชว์กระบองไฟจบ กินข้าวเย็นต่อ จนเสร็จ แล้วกลับที่พักไปนอน
จบ บันทึกการเดินทางเกาะช้าง วันแรก
