เช้านี้ ตื่นขึ้นมาแต่เช้า ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นด้านหลังเต็นท์ และได้ดูวิวป่าสนที่เราอยู่
8.00 น. เราเริ่มเก็บเต็นท์ และอุปกรณ์อื่น ๆ ขึ้นรถจนเสร็จ แล้วจึงไปอาบน้ำ จากนั้นจึงไปทานข้าวเช้า ที่ร้านเดิม แต่ครั้งนี้ เมนูที่สั่งเท่าเดิม แต่ราคาอาหารแพงขึ้น 50 บาท เราจึงทักพนักงานของร้าน ทราบว่า วานนี้มีการซื้อของเพิ่ม ราคาของแพง จึงขอขึ้นราคา
แต่เราคิดว่า เพราะเป็นฤดูท่องเที่ยวแล้ว จึงขึ้นราคาต่างหาก กลุ่มของเรารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เพราะชื่นชม และอุดหนุนร้านอาหารร้านนี้เป็นประจำตลอดระยะเวลาที่พักอยู่ที่ภูหินร่องกล้า และช่วยกันคิดว่า ถ้าทางร้านต้องการคิดราคา ควรทำอย่างไร
อย่างน้อยทางร้านควรจะมีการแจ้งก่อนสั่งอาหารว่า ขอเพิ่มราคาเกินกว่าราคาบนเมนู เนื่องจากเป็นฤดูท่องเที่ยว หรือเพราะต้นทุนวัตถุดิบแพงขึ้น เราก็พอเข้าใจ แต่สิ่งที่เราเจอคือ การขึ้นราคา ในตอนจ่ายเงิน ทั้ง ๆ ที่ สั่งเมนูเดิมทุกอย่าง
ประเด็นนี้ ก็หวังว่าเจ้าหน้าที่อุทยาน จะให้ความสนใจมากขึ้น และทางร้านควรปรับปรุงบริการ และแจ้งลูกค้าถึงการปรับราคา ก่อนสั่งอาหาร
เราตัดสินใจจ่ายเงินค่าอาหารที่แพงขึ้น เพราะถือว่าเป็นมื้อสุดท้ายของเราในภูหินร่องกล้าแล้วในทริปนี้ แต่ก็ผิดหวังนิดหน่อยกับร้านอาหารร้านนี้ที่เราชื่่นชมมาตลอด
ออกจากภูหินร่องกล้า ที่ลานกางเต็นท์ พอดีมองไปให้คิวรถกระบะที่มีรถเพิ่งออกไปที่ภูลมโล เพื่อดูดอกนางพญาเสือโคร่ง ซึ่งในช่วงวันที่เราไปนั้น ดอกยังไม่บานเต็มที่ เลยตัดสินใจไม่ไป
เราเดินทางออกจากลานกางเต็นท์ กลับไปยังเส้นทางสู่ภูทับเบิก ทางเดิมที่เราไปสำรวจแล้วเมื่อวาน แต่วันนี้ จะต้องขับรถลงไปจนถึงด้านล่าง
เมื่อออกจากทางออก ภูหินร่องกล้า ไป แวะเข้าห้องน้ำที่ทางออก และแวะถ่ายรูปวิวภูทับเบิก จากจุดถ่ายรูป
หลังจากนั้น ก็ต้องเตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมความพร้อม พบกับ 111 โค้งของภูทับเบิก โดยการออกจากภูหินร่องกล้า เข้าภูทับเบิกนั้น เราจะเห็นวิวสวย ๆ เป็นทางลงเขา เสียงเบรก และรถที่วนไปวนมาตามทางโค้ง เป็นระยะ ๆ
ต้องยอมรับว่าวิวภูทับเบิก จากทางลงนี้ ทำให้เราเห็นภูทับเบิก จากจุดสูงสุด ลงไปด้านล่าง
ตอนแรกเรากะว่าจะแวะ หอวัดอุณหภูมิ แต่สรุปว่าขับรถเลย ไปหลงอยู่ที่โรงเรียน…
ครูที่โรงเรียนคงแปลกใจ ที่มีรถแปลก ๆ เข้ามา จากโรงเรียน… เราก็แวะถามทางไปจุดวัดอุณหภูมิ ทราบว่า ขับเลยมาไกลแล้ว จึงตัดสินใจลงต่อจนถึงพื้นราบ เจอสามแยกและเห็นร้าน 7-11 ที่ทุกคนต้องแวะ ก่อนขึ้นภูทับเบิก
วันนี้เรามีแผนเดินทางต่อไปที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ซึ่งวิวจากทางลงภูทับเบิก มาจนถึงวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วนั้น ถือว่าสวยมาก ๆ
เมื่อถึงวัด เราได้ขับรถไปหลังวัด และแวะทานอาหารกลางวันที่ ร้านขนมจีนบ้านคุณยาย ซึ่งเป็นขนมจีนเส้นสี มีน้ำยาเสิร์ฟ 3 รูปแบบ เติมน้ำยาเพิ่มไม่อั้น (แต่เราก็ไม่ได้ขอเติม)
หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ ก็ถึงเวลาเข้าวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เรานำรถไปจอดที่ที่จอดรถเอกชน เสียค่าจอดรถ 30 บาท และลงมาเที่ยววัดต่อ
ในช่วงโควิดนี้ เราต้องทำการวัดอุหณภูมิ และลงทะเบียนเข้าวัดก่อน ในตอนที่เราไปนั้น เป็นช่วงเที่ยงค่อนข้างร้อน แต่ก็วิวสวย สิ่งที่ประทับใจในครั้งนี้คือการทำบุญสร้างอุโบสถ และซื้อที่ดินวัด เพราะการหาทำบุญสร้างอุโบสถนั้น เป็นเรื่องยาก เพราะอุโบสถนั้น สร้างเสร็จแล้วก็จบเลย ไม่สร้างได้บ่อย ๆ ถือโอกาสชวนทำดี ในโครงการวีอาร์ดี ชวนทำดี ทำบุญสร้างอุโบสถและซื้อที่ดินที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วด้วย
หลังจากออกจากวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วแล้ว เราเดินทางไปจุด Check In อีก 2 ที่นั่นคิอ พิโนลาเต้ และโรงเตี๊ยมสุดขอบฟ้า
จบทริปของวันนี้ โดยการไปพักที่รีสอร์ท ใกล้ ๆ กับแยกแคมป์สน ส่วนร้านอาหารค่ำคืนนี้ เราเลือกร้านนายต๋อย เขาค้อตามคำแนะนำของเจ้าของรีสอร์ท
ที่ร้านนายต๋อยเขาค้อ มีเรื่องประทับใจและน่าชื่นชมคือ ในตอนที่เราสั่งคิดเงิน ปรากฎว่า ราคาอาหารแพงกว่าเมนู เล็กน้อย เราจึงท้วงไป ทางร้านชี้แจงว่า ราคาอาหารในเมนูนั้นเป็นราคาเก่า แต่ก็ยินดี ปรับลดให้ตามราคาที่ระบุในเมนู ขอชื่นชมและขอบคุณร้าน ในโอกาสนี้ด้วย
หลังจากรับประทานอาหารเย็น ก็กลับเข้าที่พัก
จบการท่องเที่ยวสำหรับคืนนี้