ตำนานแก่งคุดคู้ จังหวัดเลย

แก่งคุดคู้ แก่งหินขนาดใหญ่ที่ทอดตัวขว้างลำน้ำโขงในช่วงที่ไหลผ่านอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย

แก่งคุดคู้ เป็นแก่งหินใหญ่ขวางอยู่กลางลำน้ำโขง ในช่วงโค้งของลำน้ำโขงพอดี ทำให้เกิดกระแสน้ำเชี่ยวไหลผ่านแก่ง ในฤดูปริมาณน้ำจะสูงท่วมจนมองไม่เห็นแก่ง เวลาที่เหมาะจะชมแก่งคุดคู้คือเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม

แก่งคุดคู้ ตั้งอยู่บ้านน้อย ตำบลเชียงคาน เป็นแก่งหินใหญ่ขวางอยู่กลางแม่น้ำโขง ช่วงโค้งของลำน้ำพอดี ทำให้เกิดกระแสน้ำเชี่ยวไหลผ่านแก่ง

ในฤดูฝนปริมาณน้ำจะสูงท่วมจนมองไม่เห็นเกาะแก่งกลางแม่น้ำ

เวลาที่เหมาะในการชมแก่งคุดคู้ คือ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นฤดูแล้ง ปริมาณน้ำน้อย สามารถมองเห็นเกาะแก่งชัดเจน

สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสสายน้ำโขงและธรรมชาติสองฝั่งอย่างใกล้ชิด บริเวณแก่งคุดคู้มีเรือยนต์ให้บริการพาล่องชมแม่น้ำโขง ใช้เวลาไป-กลับประมาณ 1 ชั่วโมง

นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารให้บริการ เช่น ไก่ย่าง ส้มตำ ลาบ โดยเฉพาะพล่ากุ้งเต้น ต้มยำปลาจากลำน้ำโขง ถือเป็นอาหารแนะนำของที่นี่

นอกจากนี้ ริมทางหลวงหมายเลข 211 จากตัวเมืองเชียงคานก่อนถึงแก่งคุดคู้ ยังเป็นแหล่งผลิตมะพร้าวแก้ว ซึ่งเป็นของฝากขึ้นชื่อของอำเภอเชียงคานและจังหวัดเลย นักท่องเที่ยวสามารถแวะอุดหนุนผลิตภัณฑ์ได้จากร้านของชาวบ้านตลอดสองฟากฝั่งถนน

ตำนานแก่งคุดคู้ จังหวัดเลย

นานแล้วมีพรานป่าคนหนึ่งชื่อ “จึ่งขึ่งดั้งแดง” รูปร่างสูงใหญ่ล่ำสัน มีฝีมือในการล่าสัตว์ วันหนึ่งนายพรานผู้นี้ตามล่าควายเงินมาจากหลวงพระบาง (ที่เรียกควายเงินเพราะมูลของควายตัวนี้เป็นเงิน)

พอมาถึงริมน้ำโขงเห็นควายเงินพักกินน้ำ นายพรานจึงดักซุ่มยิง พอดีชาวบ้านแล่นเรือผ่านมา ควายเงินตกใจตื่นเตลิดขึ้นไปบนเขาลูกหนึ่ง (ต่อมาเขาลูกนี้ได้ชื่อว่า”ภูควายเงิน”)

นายพรานเลยยิงไปถูกเขาอีกลูกจนพังทลายไปซีกหนึ่ง กลายเป็นหน้าผาสูงชัน ที่ชาวบ้านเรียกว่า “ภูผาแบ่น”

นายพรานโกรธคนที่แล่นเรือผ่านซึ่งเป็นต้นเหตุให้ควายเงินหนีไป จึงกลั่นแกล้งด้วยการขนหินมาขวางกั้นลำโขงไม่ให้เดินเรือได้ นายพรานทำการเกือบจะสำเร็จ ก็พอดีมีสามเณรรูปหนึ่งมาเห็นเข้า

เณรนั้นออกอุบายหลอกให้นายพรานใช้ไม้เฮียะ (ไม้ใผ่ชนิดหนึ่ง) ผ่าซีกหาบหินแทน ไม้เฮียะผ่าแล้วจะเป็นสันคมกริบ เมื่อนายพรานใช้หาบหิน ไม้นั้นก็บาดคอนอนตายคุดคู้อยู่ที่ริมโขงนั้นเอง แก่งหินนั้นจึงเรียกว่า “แก่งคุดคู้”

ผลจากการที่นายพรานขนหินมาวางขวางทำให้กลางน้ำโขง มีหลายแก่งหลายแห่ง มีชื่อเรียกต่าง ๆ เช่น แก่งฟ้า แก่งจันทร์ เป็นต้น แก่งเหล่านี้แม้จะเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางในลำน้ำโขงมาแต่โบราณ แต่ก็เป็นบริเวณที่มีปลาเข้ามาอยู่อาศัยอย่างชุกชุม